ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

ต้นโมก ชื่อวิทยาศาสตร์  ( Scientific name ) : Wrightia religiosa Benth ชื่อสามัญ  : Kurchi  อาณาจักร ( Kingdom ) : Plantae อันดับ ( Order ) : Gentianales วงศ์  ( Family ) : Apocynaceae  สปีชีส์ ( Genus ) : W. religiosa ชื่อพื้นเมือง :  ปิดจงวา ( เขมร สุรินทร์ )  หลักป่า ( ระยอง )  มูก(ภาคกลาง) มูกเกื้อ(จันทบุรี) โมกมัน ผู้รวบรมข้อมูล : นส.พิณนาราย์ ณ ลำปาง ม.5/1 เลขที่12
โพสต์ล่าสุด
โมก   แบ่งได้อีกหลายสายพันธุ์ย่อย สกุล Wrightia มีประมาณ 24 ชนิด พบในแอฟริกา เอเชีย และออสเตรเลีย ใน ไทยมีประมาณ 15 ชนิด และเป็นไม้ต่างถิ่นประดับหนึ่งชนิด คือ พุดพิชญา W. antidysenterica (L.) R. Br. ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษ William Wright (1735-1819) ยกตัวอย่างเช่น      1. โมกพวง            มีดอกสีขาว หอม ดอกเป็นพวง ใบค่อนข้างมาก แตกพุ่มมาก       2. โมกซ้อน           มีดอกสีขาว หอม กลีบดอกซ้อน ใบค่อนข้างมาก แตกกิ่งกระโดงปานกลาง       3. โมกบ้าน / โมกลา            มีดอกสีขาว หอม ใบค่อนข้างน้อย เป็นพันธุ์โมกที่มีกลิ่นหอมแรงมากที่สุด  
ลักษณะของโมก     ต้น   เป็นพรรณไม้ยืนต้นหรือไม้พุ่มขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 5-12 เมตร ผิวเปลือกสีนำตาลดำ ลำต้นกลมเรียบมีจุดเล็ก ๆสีขาวประทั่วต้น แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบลำต้นไม่เป็นระเบียบ     ใบ   ใบเดี่ยวออกเรียงกันเป็นคู่ตามก้านใบลักษณะใบ เป็นรูปไข่ รี ปลายใบมนแหลม โคนใบแหลม ขอบใบเรียบ เนื้อใบบางสีเขียว ขอบใบเรียบ เส้นใบ 8-15 คู่ ขนาดใบกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร     ดอก   ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ อยู่ตามปลายกิ่ง ช่อหนึ่งมีดอก 4-8 ดอก ดอกจะคว่ำหน้าลงสู่พื้นดิน สมบูรณ์เพศ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปไข่หรือรูปขอบขนาน ปลายแหลม กลีบดอก สีขาวหรือสีชมพูอ่อน ปลายกลีบมน เกสรเพศผู้ ติดกับกลีบดอกด้านใน มีสีขาวกลิ่นหอม ดอกบานเต็มที่มีขนาด ประมาณ 2 เซนติเมตร อับเรณู ยาว 6-7 มม. รังไข่ มี 2 คาร์เพล ผล รูปแถบแตกแนวเดียว ยาว 10-15 ซม. กว้าง 1-3 ซม. กระจุกขน ยาว 1.2-4 มม.     ฝัก/ผล   รูปทรงกระบอกจะออกมาเป็นคู่ ลักษณะโค้งงอเข้าหากัน ภายในมีเมล็ดเรียงอยู่เป็นจำนวนมาก ขนาดความยาวของฝักประมาณ 10-15 เซนติเมตร ...
การกระจายพันธุ์ (  Characteristics ) :   จีน ออสเตรเลีย ฤดูกาลออกดอก :   ตลอดปี ถิ่นกำเนิด :   พม่า  เวียดนาม เขมร มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สามารถพบที่จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน ภูมิภาคมาเลเซีย และออสเตรเลีย ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามชายป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ การขยายพันธุ์ :  โมกลา มีฝักและเพาะเมล็ดได้ จึงขยายพันธุ์ได้ทั้งการเพาะเมล็ด ปักชำ และตอนกิ่ง โมกลาชอบดิน ชื้นจัดมากกว่าโมกซ้อน และสามารถปลูกแช่น้ำได้ดี ถ้าดินมีช่วงแห้งสลับเปียกจะออกดอกได้ตลอดปี     ส่วนโมกซ้อนขยายพันธุ์ได้โดยวิธี การปักชำ และ ตอนกิ่ง   ปลูกเป็นไม้ประดับกระถางได้ดี   การปลูกลงแปลงในที่ร่มรำไรจะมีใบบางสีเขียวเข้มและพุ่มโปร่ง ในขณะที่ต้นอยู่กลางแจ้งและได้รับแดดเต็มที่   ใบจะมีสีเขียวอมเหลือง มีใบมากและทรงพุ่มแน่น ส่วนที่มีกลิ่นหอม คือ  ดอก สรรพคุณทางยา: ราก ใช้รักษาโรคผิวหนัง  เรื้อน คุดทะราด แก้พิษสัตว์กัดต่อย   ใบ ใช้ขับน้ำเหลือง   ดอก เป็นยาระบาย   เปลือก เป็นยาเจริญอาหาร รักษาโรคไต   ยางจาก...